
สิงห์บลูส์ ปะทะ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน: พรีวิว ฟอร์มล่าสุด และทำนายผล
เชลซีฟอร์มแผ่วหลังพ่ายอตาลันต้า! เอฟเวอร์ตันฟอร์มแรงหวังบุกสอยถึงถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อ่านพรีวิว, สภาพทีม, คีย์แมน และทำนายผลการแข่งขันได้ที่นี่!
ศึกพรีเมียร์ลีกกลับมาระเบิดความมันส์อีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์นี้ กับเกมในสัปดาห์ที่ 16 ของฤดูกาล 2025/26 โดยเกมวันเสาร์จะเริ่มต้นด้วยสองคู่ที่ลงสนามพร้อมกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกมระหว่าง เชลซี พบกับ เอฟเวอร์ตัน ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์
ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเชลซีต้องหยุดชะงักลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้กระแสการลุ้นแชมป์เริ่มจางหายไป ทัพสิงห์บลูส์ ไม่ชนะใครมา 4 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ รวมถึงความพ่ายแพ้อย่างน่าตกใจต่อลีดส์ ยูไนเต็ด 1-3 นอกจากนี้พวกเขายังเพิ่งพลาดท่าพ่ายให้กับอตาลันต้า 1-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ทำให้ลูกทีมของเอ็นโซ่ มาเรสก้า ร่วงลงมาอยู่อันดับ 5 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก หลังไม่ชนะใครมา 3 เกมติดต่อกัน
ในขณะที่ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ภายใต้การคุมทีมของเดวิด มอยส์ ยังคงรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง โดยพวกเขาเก็บชัยชนะได้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ทำให้ทีมขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 7 ของตารางคะแนน และหากพวกเขาสามารถบุกมาคว้าชัยชนะได้ในเกมวันเสาร์นี้ ก็มีโอกาสที่จะจบสัปดาห์ที่ 16 ด้วยการติดท็อปโฟร์ หากผลการแข่งขันคู่อื่นๆ เป็นใจ
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เชลซีเป็นฝ่ายเอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 โดยได้ประตูชัยจากนิโคลัส แจ็คสัน ซึ่ง The Hard Tackle จะพาคุณไปเจาะลึกถึงรายละเอียดต่างๆ ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น
ความพร้อมของทีม
เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือเชลซีต้องปวดหัวกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน ก่อนเกมสำคัญในวันเสาร์นี้ โดยพวกเขาอาจจะไม่มีผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ถึง 7 คน
มอยเซส ไกเซโด้ จะติดโทษแบนเป็นเกมสุดท้าย หลังจากโดนไล่ออกจากเกมที่พบกับอาร์เซนอลเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ มาเรสก้ายังต้องลุ้นความฟิตของ เวสลีย์ โฟฟาน่า ที่ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาในเกมกับอตาลันต้า
อย่างไรก็ตาม มาเรสก้ายังหวังว่าโฟฟาน่าจะฟิตทันลงเล่นในเกมกับเอฟเวอร์ตัน ส่วนผู้เล่นที่ยังคงอยู่ในห้องพักฟื้นคือ เลวี คอลวิลล์ (เข่า), ดาริโอ เอสซูโก้ (แฮมสตริง), โรเมโอ ลาเวีย (ต้นขา) และ เลียม เดลาป (ไหล่) นอกจากนี้ มิไคโล มูดริค ยังคงติดโทษแบนจากการตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่านเมื่อหลายเดือนก่อน
โรเบิร์ต ซานเชซ จะได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอย่างแน่นอน โดยเชลซีจะมาในระบบ 4-2-3-1 แนวรับจะประกอบไปด้วย มาโล กุสโต้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, เวสลีย์ โฟฟาน่า และ มาร์ก กูกูเรยา
ในส่วนของแดนกลาง อังเดรย์ ซานโตส จะได้ลงเล่นคู่กับ เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ ในตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กลาง โดยมี โคล พาลเมอร์ รับบทบาทเป็นเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 ส่วน เจา เปโดร จะเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ เอสเตเวา วิลเลียน เป็นตัวริมเส้น
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (4-2-3-1): ซานเชซ; กุสโต้, ชาโลบาห์, โฟฟาน่า, กูกูเรยา; ซานโตส, เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ; เอสเตเวา, พาลเมอร์, การ์นาโช่; เปโดร
ทางฝั่งเอฟเวอร์ตัน เดวิด มอยส์ ได้รับข่าวดีเกี่ยวกับความพร้อมของทีม ก่อนเกมสำคัญในวันเสาร์นี้ โดยพวกเขาอาจจะขาดผู้เล่นในทีมชุดใหญ่เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น
อิดริสสา เกย์ และ ทิม อิโรเอกบูนัม พร้อมกลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังพ้นโทษแบน นอกจากนี้ มอยส์ยังได้รับการยืนยันว่า เธียร์โน่ แบร์รี่ ฟิตพร้อมลงสนาม ส่วนผู้เล่นที่ยังคงได้รับบาดเจ็บคือ เชมัส โคลแมน (ต้นขา), จาร์ราด แบรนธ์เวท (แฮมสตริง) และ เมอร์ลิน โรห์ล (ไส้เลื่อน)
จอร์แดน พิคฟอร์ด จะได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริง โดยเอฟเวอร์ตันจะมาในระบบ 4-2-3-1 แนวรับจะประกอบไปด้วย เจค โอบrien, ไมเคิล คีน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ และ วิตาลี มิโคเลนโก้
ในส่วนของแดนกลาง เจมส์ การ์เนอร์ และ อิดริสสา เกย์ จะได้ลงเล่นคู่กันในตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กลาง โดยมี เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ รับบทบาทเป็นเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 ส่วน อิลีมัน เอ็นดิยาย และ แจ็ค กรีลิช เป็นตัวริมเส้น และ เธียร์โน่ แบร์รี่ จะเป็นกองหน้าตัวเป้า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม (4-2-3-1): พิคฟอร์ด; โอ’ไบรอัน, คีน, ทาร์คอฟสกี้, มิโคเลนโก้; การ์เนอร์, เกย์; เอ็นดิยาย, ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, กรีลิช; แบร์รี่
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง
ถึงแม้ว่า โคล พาลเมอร์, เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ และ แจ็ค กรีลิช จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่เราขอเลือก เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ เป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองในเกมพรีเมียร์ลีกระหว่างเชลซีและเอฟเวอร์ตัน
อดีตกองกลางเชลซีเป็นดาวซัลโวร่วมของเอฟเวอร์ตันในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยทำไปแล้ว 4 ประตู และยิงไป 3 ประตูจาก 4 เกมหลังสุด ซึ่งเท่ากับจำนวนประตูที่เขายิงได้จากการลงเล่น 62 นัดก่อนหน้านี้รวมกันให้กับเลสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และเอฟเวอร์ตัน
ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่คุ้มค่ากับการซื้อตัวใน FPL สำหรับสัปดาห์ที่ 16 นอกจากนี้ นักเตะชาวอังกฤษรายนี้ยังกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าทีมเก่า หลังจากไม่ได้รับโอกาสมากเพียงพอที่เชลซี
บทสรุป
เอฟเวอร์ตันอาจจะรู้สึกว่าพวกเขามีโอกาสที่จะเก็บชัยชนะเหนือทีม "บิ๊กซิกซ์" อีกครั้ง หลังจากเพิ่งสร้างเซอร์ไพรส์เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่ เดวิด มอยส์ หวังว่าจะสามารถคว้าชัยชนะนอกบ้านเหนือเชลซีได้เสียที
กุนซือชาวสก็อตต์รายนี้ไม่เคยบุกมาชนะเชลซีได้เลยตลอด 20 เกมในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 7 แพ้ 13) โดยมีเพียงลิเวอร์พูลเท่านั้นที่เขาเจอบ่อยกว่าแต่ไม่เคยชนะ (21 นัด) อย่างไรก็ตาม มอยส์เคยยุติสถิติไม่ชนะใครนอกบ้านติดต่อกันยาวนานกว่า 30 นัด ด้วยการบุกไปเอาชนะลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2002
ในขณะที่เชลซีต้องการกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอย่างเร่งด่วน หลังจากฟอร์มแผ่วลงไปหลังจากการเอาชนะอาร์เซนอล อย่างไรก็ตาม ด้วยฟอร์มที่ไม่แน่นอนของแนวรับ ทำให้เอฟเวอร์ตันจะสามารถฉวยโอกาสจากจุดอ่อนนี้ และคว้าแต้มได้อย่างน้อยหนึ่งแต้มจากเกมวันเสาร์นี้ The Hard Tackle คาดการณ์ว่าเกมพรีเมียร์ลีกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ จะจบลงด้วยผลเสมอ 2-2